26 พฤษภาคม 2554

ประสบการณ์ซื้อบ้านมือสอง ไม่ลองไม่รู้!! (ตอนที่4)



            ในใจผมอยากได้หลังแรกมากที่สุด เพราะดูสวยและแทบไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม ผมเลยลองต่อรองราคากับหลังนี้ก่อน บทความในเน็ตบอกว่าเทคนิคการต่อรองราคาบ้านมือสอง คือ หาจุดเสียของบ้านแล้วบอกเค้าว่าเราต้องเสียค่าปรับปรุงบ้านอีก แต่เนื่องจากหลังนี้เพิ่งปรับปรุงมาสภาพจึงดูดีจึงใช้เทคนิคนี้ไม่ได้ ดังนั้นผมจึงใช้ไม้ตาย คือ อ้อนเลยครับบอกว่าเรามีงบเท่านี้ซื้อราคามากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ แล้วก็บอกเค้าว่าถ้าไม่ได้คงต้องไปดูอีกสองหลังแทน แต่ไม่ยอมลดให้ ผมเลยต้องไปต่อรองกับอีกสองเจ้าแทน


            บ้านอีกสองหลังมีนายหน้าเป็นตัวแทนขายให้ ผมลองต่อพร้อมกันสองหลัง หลังแรกจาก 1,500,000 เหลือ 1,300,000 นายหน้าบอกว่าจะลองคุยกับเจ้าของให้สุดท้ายลดลงมาเหลือที่ 1,400,000 ตรงนี้คือข้อดีของนายหน้าบ้านมือสองครับ คือ เค้าก็อยากได้ค่าคอมมิชชั่นเร็วๆ เลยช่วยต่อราคาเพื่อให้เรารีบซื้อ บวกกับในกรณีของผมเจ้าของบ้านเองจะรีบขายด้วยเลยยอมลดราคาได้ง่ายๆ

            พอรู้ราคาของหลังที่สองผมเลยรีบไปต่อราคากับหลังที่สาม ให้อยู่ที่ 1,300,000 แต่เค้าให้แค่ 1,400,000 ผมเลยตัดสินใจง่ายเลยเพราะหลังที่สองสวยกว่าเฟอร์นิเจอร์พร้อมในราคาที่เท่ากันสุดท้ายเลยตัดสินใจเลือกหลังที่สอง

            หลังจากเลือกบ้านได้ถูกใจก็ต้องรีบวางเงินจองก่อน เดี๋ยวคนอื่นจะมาแย่ง อันนี้เห็นหลายคน post ในเว็บบอร์ดว่าถ้าไม่รีบจองมักมีคนมาตัดหน้าเราตลอดงานนี้ผมไม่อยากพลาดเลยเอาเงินไปจองก่อนเลย 10,000 บาท หลังจากนั้นก็ทำเรื่องกู้กับธนาคารซึ่งผ่านได้โดยง่ายเพราะผมใช้บัตรเครดิตและมีประวัติการจ่ายเงินที่ดี(ไม่ติด black list เครดิตบูโร) จากนั้นก็ไปทำสัญญากันที่สำนักงานกรมที่ดินของเขต ค่าใช้จ่าย ในการซื้อขายบ้าน ที่ดิน  ณ กรมที่ดิน ในวันโอน มีรายการที่จะต้องเสียดังต่อไปนี้(เข้าไปอ่านตามลิงค์น่ะครับ) ซึ่งเราต้องตกลงว่าใครจะผู้ซื้อหรือผู้ขายจะเป็นผู้ออกเงินส่วนนี้ต้องจ่ายเป็นเงินสดน่ะครับ รวมแล้วค่าธรรมเนียมประมาณ 5% ของราคาบ้าน เป็นอันจบขั้นตอนทั้งหมด

            ขั้นตอนเรื่องเงินๆทองๆ และกฏหมายเป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยรู้เรื่องมากโชคดีที่นายหน้าทางฝ่ายผู้ขายช่วยจัดการให้จนเสร็จอันนี้ก็ต้องยกให้เป็นข้อดีของนายหน้าบ้านมือสองครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น